เพราะการออมเงินเป็นประจำคือเส้นทางสู่ความมั่งคั่ง การออมเงินจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทุกเพศทุกวัย ยิ่งฝึกนิสัยออมเงินได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสเดินหน้าสู่ความมั่งคั่งทางการเงินได้เร็วขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ชอบช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจอาจมองว่าการออมเงินเป็นเรื่องยาก เพราะส่วนใหญ่หมดเงินไปกับการซื้อ เก็บเงินเท่าไหร่ก็ไม่อยู่เสียที และสำหรับใครที่เสพติดการช้อปจนเก็บเงินไม่อยู่ ลองมาดู 4 เทคนิคพิชิตเป้าหมายการออมเงินสำหรับคนชอบช้อปปิ้งโดยเฉพาะ
ออมเงินก่อนช้อปเสมอ
วิธีสุดคลาสสิกที่จะทำให้ตัวเลขเงินออมเพิ่มขึ้น นั่นคือ เมื่อมีรายได้เข้ามา ไม่ว่าจะเท่าไหร่ก็ตามต้องแบ่งเงินสำหรับออมก่อนเสมอ เช่น เมื่อเงินเดือนออก ควรแบ่งเงินสำหรับการออมขั้นต่ำ 10 เปอร์เซ็นต์ แม้เป็นตัวเลขไม่มาก แต่หากทำอย่างสม่ำเสมอรับรองว่าในอนาคตจะได้เป็นเจ้าของเงินก้อนใหญ่แน่นอน
บันทึกรายการช้อป
หลายคนมักละเลยการจดบันทึกการช้อปด้วยข้ออ้างว่าลืมหรือไม่มีเวลา ทั้งที่จริงแล้วการบันทึกค่าใช้จ่ายเสมอจะช่วยอุดเงินรั่ว เพราะแต่ละเดือนจะทราบว่าเงินที่หายไปหมดไปกับการซื้อของประเภทใด เดือนต่อ ๆ ไปจะได้ลดค่าช้อปปิ้งส่วนนั้น เพียงเท่านี้ก็มีเงินออมมากขึ้น
อย่าด่วนตัดสินใจ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนช้อปปิ้งเพราะอารมณ์ เมื่อเห็นสินค้าที่อยากได้ก็ตัดสินใจซื้อทันทีโดยไม่ได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าสิ่งของนั้น ๆ จำเป็นหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น เช่น กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ฯลฯ แนะนำว่าหากเจอของที่ชอบ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจ ให้ใช้เวลา 3-7 วันในการตัดสินใจ เพราะบางครั้งคนเราตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะอารมณ์มากกว่าความจำเป็นนั่นเอง
หากิจกรรมอย่างอื่นแทนการช้อปปิ้ง
อีกหนึ่งวิธีช่วยเพิ่มยอดเงินในบัญชีคือควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ต้องใช้เงิน เพราะบางคนใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเดินห้างสรรพสินค้าหรือเข้าเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้กระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นลองเปลี่ยนมาทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น เล่นกีฬา อ่านหนังสือ หรือหากิจกรรมทำง่าย ๆ ที่บ้าน เป็นต้น
เทคนิคเหล่านี้แม้จะดูไม่ยาก แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่ง่ายสำหรับนักช้อปตัวยง เพราะฉะนั้นแนะนำให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการช้อปปิ้ง เพราะหากหักดิบงดช้อปทันทีอาจทำให้เครียดจนต้องกลับมาช้อปปิ้งรัว ๆ อีกครั้ง และนอกจากการออมเงินแล้ว อย่าลืมแบ่งสัดส่วนเงินเพื่อการลงทุน เพราะการลงทุนคืออีกหนึ่งวิธีทำให้เงินงอกเงย แต่หากเป็นนักลงทุนมือใหม่ ควรพิจารณาว่าตนเองแบกรับความเสี่ยงได้มากหรือน้อยเพียงใด และควรศึกษาความเสี่ยงจากการลงทุนให้ดีก่อนเสมอ