การมีชีวิตอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร ด้วยเงิน 100 บาทต่อวัน อาจกลายเป็นเรื่องยากลำบากในสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมอย่างเช่นทุกวันนี้ ไหนจะค่าครองชีพสูง ค่าอาหารและค่าสาธารณูปโภคต่างพากันขยับปรับราคาขึ้นเพื่อเอาตัวรอด พร้อมกับผลักภาระให้กับประชาชนผู้เสียภาษีและหาเช้ากินค่ำ แต่ก็ใช่ว่าจะยากเกินความสามารถหากว่าเราตั้งใจจริง วันนี้เราจึงเสาะหาเคล็ดไม่ลับ 3 วิธีเพื่อความประหยัด มานำเสนอเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับคุณ ได้พิจารณานำไปปรับใช้ดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1 หลังจากแยกค่าพาหนะในการเดินทางแล้ว ก็เป็นการจัดสรรค่าอาหารแบบประหยัดในแต่ละวันดังนี้ 

– มื้อเช้า ข้าวเหนียวหมูทอด/หรือหมูปิ้ง 25-30 บาท (น้ำดื่ม 1 ขวด 10 บาท หรือขวดเปล่าเอาไว้เติมน้ำที่ออฟฟิศดื่มได้อย่างสะอาดปลอดภัย)

– ข้าวเที่ยง กินแถวที่ทำงาน 30-40 บาท แล้วแต่วัน วันไหนข้าวราดแกงก็ถูกหน่อย วันไหนกินเกาเหลา/อาหารตามสั่งก็แพงหน่อย ส่วนน้ำดื่มก็กินที่ออฟฟิศ

– ข้าวเย็น กินแถวที่พัก 30-45 บาท น้ำดื่มจากออฟฟิศที่เติมไว้ในขวดสำรองส่วนตัว

ถ้าทำตามนี้ได้รับรองว่าบวกลบงบประมาณไม่เกิน 100 บาทอย่างแน่นอน

วิธีที่ 2 ทำข้าวกล่องไปกินในที่ทำงาน

กรณีที่อยู่เป็นครอบครัว 2 คนขึ้นไป แนะนำให้คิดเมนูง่าย ๆ ที่กินได้ทั้งครอบครัวภายใน 1 มื้อ โดยกำหนดให้วัตถุดิบที่ซื้อมาสามารถแบ่งปรุงได้ 3 มื้อใน 1 วัน เตรียมปรุงไว้ตอนเย็น เช้ามาก็อุ่นใส่กล่องข้าวไปรับประทานที่ทำงาน จะมื้อหรือสองมื้อก็ตามสะดวก เพียงเท่านี้ก็ช่วยประหยัดค่าอาหารทั้งมื้อเช้าและมื้อกลางวันลงได้เกือบ 100 บาท เลยทีเดียว 

วิธีที่ 3 จัดเซตเมนูเพื่อสุขภาพ

คุณสามารถจำกัดปริมาณและค่าใช้จ่ายไปในตัว โดยเลือกสูตรที่เน้นไข่ ไก่ และผักผลไม้ เช่น การจัดการเมนูใน 1 สัปดาห์ 5 วันทำงาน เริ่มจาก ซื้อข้าว 5 กิโลกรัมราคา 155 บาท ไข่ 1 แผง จำนวน 30 ใบ เลือกไข่เบอร์ 1-2 ราคาประมาณ 90 บาท อกไก่กิโลละ 60 บาท จำนวน 3 กิโล เป็นเงิน 180 บาท ต้นหอม ผักชี ผักกาดขาว กะหล่ำปลี รวมอีก 65 บาท ฯลฯ ตามชอบ งบประมาณ 490 บาท จัดสรรเมนูเช้ากลางวันเย็นที่มี ไข่ ไก่ และผักเป็นองค์ประกอบให้ครบถ้วน เช่น มื้อเช้าหรือเย็นจะเป็นไข่ต้ม เพียว ๆ สัก 2 ใบกับนมจืดหรือน้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย ถ้าทำได้เท่ากับคุณจ่ายค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันเพียง 98 บาทเท่านั้น ความประหยัดนี้จะทำให้มีเงินเหลือ ซึ่งสามารถใช้เป็นค่าเดินทาง หรือค่ากาแฟสดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็ยังได้

หากคุณทำได้ตามเทคนิคเพื่อความประหยัดข้างต้น การจำกัดวงเงินค่าอาหารใช้ไม่เกินวันละ 100 บาท ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับชีวิตวิถีใหม่แบบพอเพียง ที่ช่วยประหยัดรายจ่าย เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับตนเองและคนที่คุณรัก ที่สำคัญคือ ยังทำให้มีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้นอีกด้วย