หลังจากในช่วงการแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา แม้อัตราดอกเบี้ยจะต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่ประชาชนชาวไทยยังต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดและระมัดระวังการใช้เงินเป็นอย่างมาก เพราะความไม่แน่นอนในเรื่องของเศรษฐกิจและการลงทุน ซึ่งจริง ๆ แล้วความน่ากลัวของเศรษฐกิจกำลังจะเกิดขึ้นนับจากนี้ต่างหาก เพราะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น หลายประเทศเกิดเงินเฟ้อ ทำเอาสินค้าและบริการต่างพากันพาเหรดขึ้นราคาเป็นว่าเล่น ยิ่งต้องทำให้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม โดยวันนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับ ความประหยัด ที่มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถที่จะช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้

1.ลดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย
น้ำหอม ของแบรนด์เนม เครื่องเล่นเกม ท่องเที่ยว มือถือราคาแพงและอื่น ๆ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย เพราะค่าใช้จ่ายในสินค้าดังกล่าวคิดเป็น 20-30% ต่อเดือนเลยทีเดียว บางคนยอมเป็นหนี้เงินผ่อนเพื่อให้ได้สินค้านี้มา ซึ่งความจริงแล้วอาจไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเลย

2.ลดการสังสรรค์
เชื่อว่าทุกคนที่ทำงานมักจะต้องหาเวลาแฮงค์เอ้าท์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อปลดปล่อยหรือคลายเครียดจากงานที่ทำ แต่รู้หรือไม่ว่าค่าสังคมและงานสังสรรค์ดังกล่าวหากนับเป็นตัวเงินโดยรวมอาจมากถึง 10-20% ของรายรับต่อเดือนของใครบางคนก็เป็นได้

3.ฝึกทำอาหารกินเอง
หากคุณอยู่แบบครอบครัวการทำอาหารกิจเองจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านอาหารลงไปได้มาก โดยเฉพาะในปัจจุบันทั้งหมู ไก่ ไข่และวัตถุดิบในการทำอาหารต่างปรับตัวสูงขึ้น การทำกับข้าวกินเองก็จะช่วยประหยัดลงได้ แม้คนที่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว การหุงข้าวแล้วซื้อกับข้าวกินเองก็ยังช่วยประหยัดเงินได้ถึง 30-40% ต่อวัน

4.เลิกซื้อหวย
เชื่อว่าคนมากกว่า 90% คาดหวังจะถูกลอตเตอรี่หรือหวยรางวัลที่ 1 ให้ได้สักครั้งในชีวิตหรืออย่างน้อยก็ขอถูกแบบ 2 ตัวให้ได้ทุกงวดก็ยังดี แต่รู้หรือไม่ว่าการซื้อหวยในแต่ละงวดทำคนหมดเงินไม่ต่ำกว่างวดละ 300-500 บาท เพราะคำว่าเลขเด็ดเพียงคำเดียว เมื่อ 1 เดือนหวยออก 2 ครั้ง ทำให้เสียเงินซื้อหวยอย่างน้อย 600-1000 บาท ถ้าเลิกซื้อได้ก็จะมีเงินเหลือถึงเดือนละ 1,000 บาท หรือมีเงินซื้อข้าวสารขนาด 5 กิโลกรัมได้มากถึง 8 ถุง เลยทีเดียว( ถุงละ 120 บาท)

5.หารายได้เสริม
เป็นที่แน่ชัดว่าในช่วงโควิดที่ผ่านมาการมีรายได้เพียงช่องทางเดียว ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายของใครหลาย ๆ คน ดังนั้นการมีอาชีพที่ 2 หรือรายได้เสริมจึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะบางครั้งการประหยัดอดออมเพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หากแต่การหารายได้เสริมให้เพิ่มมากขึ้นกว่าที่มีอยู่ก็จะช่วยให้อยู่รอดจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยนี้ได้

ความประหยัด แม้จะเป็นหนทางที่ดีที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ถดถอยได้ แต่บางครั้งอาจไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะต้องหารายได้เสริมหรือช่องทางอื่นเพิ่มเติมให้ครอบคลุมกับรายจ่ายที่มีและเหลือพอที่จะเป็นเงินเก็บได้บ้าง อย่างน้อยก็ยังพอให้มีเหลือเก็บและไว้ใช้จ่ายใน ยามฉุกเฉิน